Tuesday, March 26, 2013

White House Down; อีกหนึ่งภาพยนตร์ถล่มทำเนียบขาว



"อเมริกาจะไม่มีวันถูกทำลายจากภัยภายนอก หากวันใดที่เราต้องสูญเสียความมั่นคงและอิสรภาพ มันจะเกิดจากการที่พวกเราทำลายตัวเอง" 

--อับราฮัม ลินคอล์น--




#กระหน่ำด้วยเทคนิคพิเศษและทำลายล้างตามสไตล์ของโรแลน เอเมอริช!



ความสงบก่อนพายุโหมกระหน่ำ!






White House Down ภาพยนตร์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งกรุงวอชิงตัน จอห์น เคล (รับบทโดยแชนนิ่ง ทาทัมจาก G.I. Joe) ซึ่งไปเที่ยมชมทำเนียบขาวกับลูกสาว แต่แล้วจู่ๆกลุ่มกองกำลังรบกึ่งทหารที่นำโดยหัวหน้าซึ่งเจสัน คลาร์ก (จาก Zero Dark Thirty) รับบท ได้ทำการบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งงานนี้เคลต้องออกโรงปกป้องครอบครัวของตนรวมไปถึงคุ้มครองประธานาธิบดี (รับบทโดยเจมี่ ฟอกซ์) ให้ปลอดภัยจากอันตรายระดับชาติครั้งนี้ด้วย 

เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดยเจ้าพ่อหนังหายนะอย่างโรแลนด์ เอเมอริช ที่ถล่มโลกมาแล้วใน Independence Day, The Day After Tomorrow และ 2012 และหนังอีกมากมายซึ่งมีความโดดเด่นด้านการใช้ CG ยิ่งใหญ่อลังการและตื่นตาตื่นใจ 

นับว่าเป็นหนังที่ได้รับการจับตามองเพราะพล็อตเรื่องนั้นมีความคล้ายเคียงกันกับ Olympus has fallen (วิกฤติวินาศกรรมทำเนียบขาว) ที่ฉายเข้าโรงในบ้านเราตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา และเปิดตัวค่อนข้างสวยงามด้วยการกวาดรายได้ 30 ล้านเหรียญ (ราว 880 ล้านบาท) ในสัปดาห์เดียวเท่านั้น แต่แม้จะเป็นหนังที่ว่าด้วยการยึดทำเนียบขาวเหมือนกัน แต่ใน White House Down จะไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายต่างชาติแบบ Olympus has fallen แต่เป็นคนในชาติเดียวกันนั่นเอง และ White House Down ยังเลือกที่จะใช้เจมี่ ฟอกซ์ ซึ่งเป็นชาวผิวสีเช่นเดียวกันกับบารัค โอบามา ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันด้วย ในขณะที่ Olympus has fallen ได้แอรอน เอ็คการ์ต ดาราผิวขาวผู้มีบทบาททูเฟซอันโดดเด่นจากเรื่อง The Dark Knight มารับบทผู้นำของสหรัฐฯ



นอกจากนี้หนังยังได้แมกกี้ จิลเลนฮาล นักแสดงสาวจาก The Dark Knight มารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับ ผู้กำลังสัมภาษณ์งานพระเอกซึ่งเป็นตำรวจมาสมัครเข้าหน่วย และผู้ก่อการร้ายก็ได้บุกโจมตีพอดี ตัวละครของพระเอกจะว่าไปก็คล้ายๆ Die Hard อันเป็นหนังที่ทั้ง White House Down และ Olympus has fallen ใช้พล็อตในทำนองที่คล้ายๆกันโดยยึดเป็นต้นฉบับ

แถมเมื่อเร็วๆนี้ประธานาธิบดีโอบามายังได้แต่งตั้ง จูเลีย เอ. เพียร์สัน วัย 53 ปี ขึ้นเป็นผู้นำหญิงคนแรกของหน่วยราชการลับแห่งสหรัฐฯจริงๆด้วย! ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือทำนายได้อย่างแม่นยำ แต่มันเป็นเหตุการณ์เร็วๆนี้ที่เกิดขึ้นจริง! 


และจะว่าไป ทาทัมก็ใส่เสื้อกล้ามหมองๆกับกางเกงขายาวสีดำ ในสภาพเดียวกันกับเฮียแม็คเคลน (บรูซ วิลลิส) ใน Die Hard ไม่มีผิด!!

โดยตัวอย่างแรกของ White House Down มีกำหนดจะปล่อยออกมาตรงกับ 6 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ (26 มีนาคม) ของบ้านเรา

#เคยเห็นภาพนิ่งแรกของ White House Down ภาพนี้ที่ออกมาเมื่อนานแล้วพร้อมกับพล็อตเรื่องคร่าวๆ แล้วพอตัวอย่างของ Olympus has fallen ออกมาก็เผลอนึกไปว่ามันคือเรื่องเดียวกันซะงั้น



#ปีนี้มีหนังทำนองยึดทำเนียบขาวออกมาถึงสองเรื่อง(เท่าที่ทราบ) ถ้าไม่นับ G.I. Joe : Retaliation ที่ใช้วิธียึดต่างกันออกไปหน่อย แถมใน Iron Man 3 กับ ก็มีฉากการมุ่งร้ายประธานาธิบดีด้วยเช่นกัน สงสัยกระแสรักชาติจะมาแรงท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย 

#คราวนี้เฮียโรแลน เอมเมอริชไม่ได้ถล่มโลก ก็อยากจะดูว่าหนังสไตล์บู๊ๆของพี่แกจะเป็นอย่างไรบ้าง

White House Down กำหนดฉายวันที่ 26 มิถุนายน 2556

Source: Cinemablend; Katey Rich , The Empire; James White , Moviefone , IMDB , Columbia Pictures Industries, Inc; Reiner Bajo , SONY PICTURES ENTERTAINMENT INC.

By: EraOfGirls

โปสเตอร์แรก Ender's Game


Ender's Game คือภาพยนตร์ไซ-ไฟดัดแปลงจากนวนิยายชื่อดังของออร์สัน สก็อต คาร์ด (แปลในชื่อไทยว่า เกมพลิกโลก) ว่าด้วยเหตุการณ์ในอนาคต โลกถูกรุกรานโดยเผ่าพันธุ์ต่างดาวนาม Formics (หรือ Buggers-แมง ตามนิยาย) สิ่งมีชีวิตต่างดาวรูปร่างคล้ายแมลง หลังจากการโจมตีที่สร้่างความเสียหายอย่างมากให้กับโลก จึงได้มีการร่วมมือกันเพื่อก่อตั้งโรงเรียนสัประยุทธ์ขึ้นในห้วงอวกาศสำหรับการฝึกฝนกลุ่มเด็กอัจฉริยะที่มีอยู่บนโลกเพื่อรับมือการรุกรานจากศัตรูต่างดาว

นี่คือปกนิยายฉบับแปลไทย ตีพิมพ์เมื่อปี 2006 แต่ต้นฉบับจริงๆคือปี 1985 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเฮีย Wolfgang Petersen ไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นหนังแล้วจ้า (นิยายชุดนี้ยังมีอีกเป็นสิบเล่มในซีรี่ส์)


ปกนิยายต้นฉบับ ที่ให้อารมณ์คลาสสิกและเป็นไซ-ไฟ (มากกว่า)

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเด็กน้อยที่ชื่อเอนเดอร์ วิกกิน ตัวเอกของเรื่องที่ตามนิยายมีอายุเพียงประมาน 11-12 ปี  ที่ได้เข้ารับการฝึกฝนต่อสู้ที่โรงเรียนสัประยุทธ์ แม้จะดูด้อยกว่าคนอื่นๆ แต่เอนเดอร์มีความอัจฉริยะในด้านการวางกลยุทธ์ กลายเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขาในโรงเรียน 

โดยกล่าวกันว่าภาพที่เห็นในโปสเตอร์นั้นคือตอนที่ตัวเอกเอนเดอร์(รับบทโดย Asa Butterfield) กำลังจะก้าวเข้าสู่ห้องฝึกการสู้รบแบบไร้แรงโน้มถ่วงด้วยชุดและอาวุธพร้อมสรรพ และผู้กำกับยังได้กล่าว่าในฉากห้องของการสัประยุทธ์นี้จะเป็นงานผสมผสาน Visual Effect ที่จะทำให้เราตื่นตะลึง! 

ทั้งนี้ตัวผู้กำกับเองมีความผูกพันกับนวนิยายเรื่อง Ender's Game มาก และเขายังได้ส่งนักแสดงเด็กๆในเรื่องไปฝึกค่ายอวกาศกับองค์กรนาซ่ารวมทั้งการเรียนรู้วิธีเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสภาวะไร้น้ำหนักอีกด้วย

ภาพนิ่งแรกของ Ender's Game ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Harrison Ford รับบทเป็นพันเอกกราฟฟ์ หนึ่งในบรรดาผู้นำของโรงเรียนสัประยุทธ์ ผู้ให้ความสนใจในตัวเอนเดอร์ และเชื่อว่าเด็กคนนี้คือความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติในการเอาชนะเหล่า Formics

Ender's Game กำกับการแสดงโดย Gavin Hood (X-Men Origins : Wolverine) กำหนดฉาย 1 พฤศจิกายนนี้ตามสหรัฐอเมริกา ส่วนที่สหราชอาณาจักเริ่มฉายก่อน 25 ตุลาคม

#เด็ก.กู้.โลก. #นิยายอนาคตจากจินตนาการของผู้แต่งเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้ว

Source: Cinemablend; Kelly West , The Empire; Ali Plumb , Wikipedia , charot's exteen blog 

By: EraOfGirls