Thursday, March 28, 2013

The Wolverine; ตัวอย่าง ทีเซอร์ ภาพนิ่ง จัดเต็ม



Source credit: Entertainment Weekly; Tim Stack , The Empire; Ali Plumb , Comingsoon , Twentieth Century Fox

ดิบ เท่ เถื่อน และนินจา!

การกลับมาของยอดมนุษย์กลายพันธุ์ในแดนอาทิตย์อุทัย

กรงเล็บโลหะปะทะคมดาบซามูไร


ตัวอย่างฉบับเต็ม (สากล)


ของในสหรัฐอเมริกา


ทีเซอร์แรก 6 วินาที ห้ามกระพริบตา แล้วจะเห็น...
 

อีกทีเซอร์ที่ยาวขึ้นเป็น 20 วิ.!  กั๊กกันจริง!






และอันนี้คือโปสเตอร์แรกที่ปล่อยออกมานานแล้ว ให้อารมณ์ของความเป็นซามูไรอย่างดีเยี่ยม




ต่อกันที่ชุดภาพนิ่ง ยั่วความอยากก่อนปล่อยคลิปตัวอย่าง:


The Wolverine (กำหนดฉาย 26 กรกฎาคม) กลับมาสานต่อเรื่องราวของโลแกนหรือที่รู้จักในฉายาวูล์ฟเวอรีน ในประเทศญี่ปุ่น รับหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองมาริโกะ (ทาโอะ โอกาโมโตะ) ซึ่งเป็นเป้าหมายของกลุ่มยากูซ่า 

"ตอนที่หนังเรื่องนี้เปิดฉาก จะเป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มผู้รักษากฏหมายและเหล่ายากูซ่า และยังเต็มไปด้วยการลักพาตัวและการขู่กรรโชกครับ"  ผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์เล่า

"เพราะฉะนั้นเธอ (มาริโกะ) จึงเป็นคนที่ได้รับการคุ้มครอง"




ไวเปอร์ (รับบทโดย Svetlana Khodchenkova จากเรื่อง Tinker Tailor Soldier Spy) ตัวร้ายหญิงที่มาจากหนังสือการ์ตูนมาเสริมทัพเป็นอีกหนึ่งวายร้ายของหนัง แมนโกลด์เล่าว่า 

"ชื่อของเธอบอกเป็นนัยๆครับว่าเธอเหมือนงูพิษ เธอชอบเล่นกับสารพิษต่างๆแถมยังมีภูมิคุ้มกันเสียด้วย เป็นคนที่จัดการได้ยากมากๆครับ"


"ไวเปอร์มองโลแกนเหมือนดั่งพรานใหญ่ที่จ้องสิงโตเป็นเหยื่อ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความชื่นชม ความปรารถนาที่จะทำลายและปรารถนาที่จะกลืนกินและยึดครองเหนี่ยวรั้งไว้" - แมนโกลด์


ตอนอยู่ในญี่ป่น วูล์ฟเวอรีนได้ผูกมิตรกับยูกิโอะ (นักแสดงหน้าใหม่ ริลา ฟูกุชิม่า) "ต้องบอกว่าเป็นควาสัมพันธ์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะเธอเองก็เป็นตัวอันตรายอยู่แล้วครับ" - แมนโกลด์


ความตาย หรือความเป็นอมตะของวูล์ฟเวอรีนคือแก่นของหนังที่ดำเนินไปตลอดทั้งเรื่อง

"เขารู้ว่าทุกคนที่เขารักต้องตาย และชีวิตของเขาจึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดครับ" แจ็คแมน ผู้รับบทวูล์ฟเวอรีนกล่าว

"เพราะฉะนั้นเขาควรจะวิ่งหนีไปดีกว่า เพราะเขาไม่มีวันตาย เขาแค่อยากหลบหนีให้พ้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง"



งานศพซึ่งจัดขึ้นที่วัดญี่ปุ่นถูกรบกวนโดยการบุกโจมตีของยากูซ่าซึ่งทำให้กรงเล็บของวูล์ฟเวอรีนยื่นออกมา 

"มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและค่อนข้างตึงเครียด และนำไปสู่สภาวะของการต่อสู้ปะทะที่ผมหวังว่ามันจะแตกต่างไปจากที่เคยมีอยู่ครับ" แมนโกลด์กล่าว


แมนโกลด์เน้นว่ายูกิโอะสามารถทำได้มากกว่าเอาตัวรอดในโลกของเหล่านินจาและมนุษย์กลายพันธุ์ 

"เธอเป็นนักสู้ขั้นสุดยอดครับ"


นอกเหนือไปจากทักษะการต่อสู้แล้ว ยูกิโอะยังมีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยแมนโกลด์เผยว่า

"ผมคิดว่าเธอทั้งเซ็กซี่และเหมือนกับหลุดออกมาจากโลกของอะนิเมะ เป็นตัวละครที่แสบสันต์จริงๆครับ"


By: EraOfGirls







Wednesday, March 27, 2013

rain ; เศร้า เหงา ระทึกท่ามกลางสายฝนเทกระหน่ำ


ตัวตนของฉันคืออะไร วอนสายฝนช่วยบอกที


ตัวอย่างเกม rain บนเครื่อง Play Station 3 ที่มาพร้อมคอนเซปต์แหวกแนวและน่าสนใจ มีกลิ่นอายของความโดดเดี่ยวที่จำต้องเผชิญ และสายฝนเท่านั้นที่ทำให้เขาเผยตัวตน แต่ในขณะเดียวกันมันก็นำมาซึ่งอันตรายที่คอยไล่ล่า...

#ไม่มีเครื่อง PS3 เล่นหรอก แต่ว่ามันเจ๋งดีจริงๆ นับถือเจ้าของความคิดเลย มันไม่ธรรมดา และสะท้อนสังคมกับจิตใจของมนุษย์ด้วย

Source: PlayStation

By: EraOfGirls

Tuesday, March 26, 2013

White House Down; อีกหนึ่งภาพยนตร์ถล่มทำเนียบขาว



"อเมริกาจะไม่มีวันถูกทำลายจากภัยภายนอก หากวันใดที่เราต้องสูญเสียความมั่นคงและอิสรภาพ มันจะเกิดจากการที่พวกเราทำลายตัวเอง" 

--อับราฮัม ลินคอล์น--




#กระหน่ำด้วยเทคนิคพิเศษและทำลายล้างตามสไตล์ของโรแลน เอเมอริช!



ความสงบก่อนพายุโหมกระหน่ำ!






White House Down ภาพยนตร์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งกรุงวอชิงตัน จอห์น เคล (รับบทโดยแชนนิ่ง ทาทัมจาก G.I. Joe) ซึ่งไปเที่ยมชมทำเนียบขาวกับลูกสาว แต่แล้วจู่ๆกลุ่มกองกำลังรบกึ่งทหารที่นำโดยหัวหน้าซึ่งเจสัน คลาร์ก (จาก Zero Dark Thirty) รับบท ได้ทำการบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งงานนี้เคลต้องออกโรงปกป้องครอบครัวของตนรวมไปถึงคุ้มครองประธานาธิบดี (รับบทโดยเจมี่ ฟอกซ์) ให้ปลอดภัยจากอันตรายระดับชาติครั้งนี้ด้วย 

เป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดยเจ้าพ่อหนังหายนะอย่างโรแลนด์ เอเมอริช ที่ถล่มโลกมาแล้วใน Independence Day, The Day After Tomorrow และ 2012 และหนังอีกมากมายซึ่งมีความโดดเด่นด้านการใช้ CG ยิ่งใหญ่อลังการและตื่นตาตื่นใจ 

นับว่าเป็นหนังที่ได้รับการจับตามองเพราะพล็อตเรื่องนั้นมีความคล้ายเคียงกันกับ Olympus has fallen (วิกฤติวินาศกรรมทำเนียบขาว) ที่ฉายเข้าโรงในบ้านเราตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา และเปิดตัวค่อนข้างสวยงามด้วยการกวาดรายได้ 30 ล้านเหรียญ (ราว 880 ล้านบาท) ในสัปดาห์เดียวเท่านั้น แต่แม้จะเป็นหนังที่ว่าด้วยการยึดทำเนียบขาวเหมือนกัน แต่ใน White House Down จะไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายต่างชาติแบบ Olympus has fallen แต่เป็นคนในชาติเดียวกันนั่นเอง และ White House Down ยังเลือกที่จะใช้เจมี่ ฟอกซ์ ซึ่งเป็นชาวผิวสีเช่นเดียวกันกับบารัค โอบามา ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาในปัจจุบันด้วย ในขณะที่ Olympus has fallen ได้แอรอน เอ็คการ์ต ดาราผิวขาวผู้มีบทบาททูเฟซอันโดดเด่นจากเรื่อง The Dark Knight มารับบทผู้นำของสหรัฐฯ



นอกจากนี้หนังยังได้แมกกี้ จิลเลนฮาล นักแสดงสาวจาก The Dark Knight มารับบทเป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับ ผู้กำลังสัมภาษณ์งานพระเอกซึ่งเป็นตำรวจมาสมัครเข้าหน่วย และผู้ก่อการร้ายก็ได้บุกโจมตีพอดี ตัวละครของพระเอกจะว่าไปก็คล้ายๆ Die Hard อันเป็นหนังที่ทั้ง White House Down และ Olympus has fallen ใช้พล็อตในทำนองที่คล้ายๆกันโดยยึดเป็นต้นฉบับ

แถมเมื่อเร็วๆนี้ประธานาธิบดีโอบามายังได้แต่งตั้ง จูเลีย เอ. เพียร์สัน วัย 53 ปี ขึ้นเป็นผู้นำหญิงคนแรกของหน่วยราชการลับแห่งสหรัฐฯจริงๆด้วย! ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือทำนายได้อย่างแม่นยำ แต่มันเป็นเหตุการณ์เร็วๆนี้ที่เกิดขึ้นจริง! 


และจะว่าไป ทาทัมก็ใส่เสื้อกล้ามหมองๆกับกางเกงขายาวสีดำ ในสภาพเดียวกันกับเฮียแม็คเคลน (บรูซ วิลลิส) ใน Die Hard ไม่มีผิด!!

โดยตัวอย่างแรกของ White House Down มีกำหนดจะปล่อยออกมาตรงกับ 6 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ (26 มีนาคม) ของบ้านเรา

#เคยเห็นภาพนิ่งแรกของ White House Down ภาพนี้ที่ออกมาเมื่อนานแล้วพร้อมกับพล็อตเรื่องคร่าวๆ แล้วพอตัวอย่างของ Olympus has fallen ออกมาก็เผลอนึกไปว่ามันคือเรื่องเดียวกันซะงั้น



#ปีนี้มีหนังทำนองยึดทำเนียบขาวออกมาถึงสองเรื่อง(เท่าที่ทราบ) ถ้าไม่นับ G.I. Joe : Retaliation ที่ใช้วิธียึดต่างกันออกไปหน่อย แถมใน Iron Man 3 กับ ก็มีฉากการมุ่งร้ายประธานาธิบดีด้วยเช่นกัน สงสัยกระแสรักชาติจะมาแรงท่ามกลางโลกที่วุ่นวาย 

#คราวนี้เฮียโรแลน เอมเมอริชไม่ได้ถล่มโลก ก็อยากจะดูว่าหนังสไตล์บู๊ๆของพี่แกจะเป็นอย่างไรบ้าง

White House Down กำหนดฉายวันที่ 26 มิถุนายน 2556

Source: Cinemablend; Katey Rich , The Empire; James White , Moviefone , IMDB , Columbia Pictures Industries, Inc; Reiner Bajo , SONY PICTURES ENTERTAINMENT INC.

By: EraOfGirls

โปสเตอร์แรก Ender's Game


Ender's Game คือภาพยนตร์ไซ-ไฟดัดแปลงจากนวนิยายชื่อดังของออร์สัน สก็อต คาร์ด (แปลในชื่อไทยว่า เกมพลิกโลก) ว่าด้วยเหตุการณ์ในอนาคต โลกถูกรุกรานโดยเผ่าพันธุ์ต่างดาวนาม Formics (หรือ Buggers-แมง ตามนิยาย) สิ่งมีชีวิตต่างดาวรูปร่างคล้ายแมลง หลังจากการโจมตีที่สร้่างความเสียหายอย่างมากให้กับโลก จึงได้มีการร่วมมือกันเพื่อก่อตั้งโรงเรียนสัประยุทธ์ขึ้นในห้วงอวกาศสำหรับการฝึกฝนกลุ่มเด็กอัจฉริยะที่มีอยู่บนโลกเพื่อรับมือการรุกรานจากศัตรูต่างดาว

นี่คือปกนิยายฉบับแปลไทย ตีพิมพ์เมื่อปี 2006 แต่ต้นฉบับจริงๆคือปี 1985 ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเฮีย Wolfgang Petersen ไม่ได้ทำเรื่องนี้เป็นหนังแล้วจ้า (นิยายชุดนี้ยังมีอีกเป็นสิบเล่มในซีรี่ส์)


ปกนิยายต้นฉบับ ที่ให้อารมณ์คลาสสิกและเป็นไซ-ไฟ (มากกว่า)

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเด็กน้อยที่ชื่อเอนเดอร์ วิกกิน ตัวเอกของเรื่องที่ตามนิยายมีอายุเพียงประมาน 11-12 ปี  ที่ได้เข้ารับการฝึกฝนต่อสู้ที่โรงเรียนสัประยุทธ์ แม้จะดูด้อยกว่าคนอื่นๆ แต่เอนเดอร์มีความอัจฉริยะในด้านการวางกลยุทธ์ กลายเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเขาในโรงเรียน 

โดยกล่าวกันว่าภาพที่เห็นในโปสเตอร์นั้นคือตอนที่ตัวเอกเอนเดอร์(รับบทโดย Asa Butterfield) กำลังจะก้าวเข้าสู่ห้องฝึกการสู้รบแบบไร้แรงโน้มถ่วงด้วยชุดและอาวุธพร้อมสรรพ และผู้กำกับยังได้กล่าว่าในฉากห้องของการสัประยุทธ์นี้จะเป็นงานผสมผสาน Visual Effect ที่จะทำให้เราตื่นตะลึง! 

ทั้งนี้ตัวผู้กำกับเองมีความผูกพันกับนวนิยายเรื่อง Ender's Game มาก และเขายังได้ส่งนักแสดงเด็กๆในเรื่องไปฝึกค่ายอวกาศกับองค์กรนาซ่ารวมทั้งการเรียนรู้วิธีเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นในสภาวะไร้น้ำหนักอีกด้วย

ภาพนิ่งแรกของ Ender's Game ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว Harrison Ford รับบทเป็นพันเอกกราฟฟ์ หนึ่งในบรรดาผู้นำของโรงเรียนสัประยุทธ์ ผู้ให้ความสนใจในตัวเอนเดอร์ และเชื่อว่าเด็กคนนี้คือความหวังสุดท้ายของมวลมนุษยชาติในการเอาชนะเหล่า Formics

Ender's Game กำกับการแสดงโดย Gavin Hood (X-Men Origins : Wolverine) กำหนดฉาย 1 พฤศจิกายนนี้ตามสหรัฐอเมริกา ส่วนที่สหราชอาณาจักเริ่มฉายก่อน 25 ตุลาคม

#เด็ก.กู้.โลก. #นิยายอนาคตจากจินตนาการของผู้แต่งเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้ว

Source: Cinemablend; Kelly West , The Empire; Ali Plumb , Wikipedia , charot's exteen blog 

By: EraOfGirls

Friday, March 22, 2013

เมื่อความน่ารักของ 'สติกเกอร์' ไม่ได้หยุดอยู่แค่ใน 'ไลน์'


ชาวญี่ปุ่นนี่ยังมีไอเดียสร้างสรรค์และน่ารักๆอยู่เรื่อยๆ ในคลิปโฆษณาล่าสุดของแอพพลิเคชั่น Line ก็เช่นกัน จะเป็นอย่างไรเมื่อคนจริงๆลองทำท่าตามสติกเกอร์ในแอพฯดู

สั้นๆแต่น่ารักเว่อร์!!


อันนี้คือตัวโฆษณา


และนี่คือเบื้องหลังที่น่ารักไม่แพ้กัน



ที่มา: NAVERLINE@Youtube, I3

By: EraOfGirls

Thursday, March 21, 2013

ตัวอย่างใหม่ Star Trek Into Darkness มาพร้อมกับลูกเล่นปลดล็อคโปสเตอร์สุดแนว!


ตัวอย่างคลิปนี้เผยให้เห็นฟุตเทจใหม่ๆที่อลังการยิ่งกว่าภาคแรก พร้อมกับธีมเรื่องที่เข้าสู่ความจริงจังเข้มข้น เมื่อความมืดแผ่ขยายและผงาด ยานเอนเตอร์ไพรส์ร่วงหล่นจากฟากฟ้า ชะตากรรมของโลกและจักรวาลขึ้นอยู่ที่กัปตันเคิร์กและลูกเรือ แต่มันไม่ใช่แค่นั้น! เพราะทางผู้สร้างได้แอบใส่ 'รหัสลับ' ที่จะนำให้คนที่สังเกตมันได้ยลโฉมโปสเตอร์ใหม่นี้ก่อนใคร:


ถ้าอยากรู้ว่ามันมาอย่างไร คำตอบมันก็อยู่ในตัวอย่างนั่นแหละ



เชื่อว่าสายตาหลายๆคนคงมองไปที่ Alice Eve เป็นแน่แท้...

แต่สุดจะเหลือเชื่อว่าเหล่าเทรคกี้ขั้นเทพได้มองเลยจุดนั้น และสังเกตลิงค์ (URL) ที่แปะอยู่ด้านหลัง (ลองคลิกดูแล้วจะสังเกตเห็น)

เป็นไงล่ะ เราเองยังอ้าปากค้าง...

ข้อแรกเลยคือคนทำหนังนี่คิดกันได้ เป็นลูกเล่นที่ค่อนข้างกวนและเท่ไปในเวลาเดียวกัน

ข้อสองคือ...คนที่รู้เรื่องนี้นี่ มันรู้กันได้อย่างไร ต้องนับถือเลยว่าขั้นเทพ คลิปตัวอย่างยาวเป็นนาทีๆ รู้ได้ไงฟะว่าซ่อนไว้จุดไหน แถมยังเล็กนิดเดียวจนสายตาคนธรรมดามิอาจมองเห็นได้จริงๆ

และนั่นก็ยิ่งทำให้อยากดู Star Trek Into Darkness เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า!

เนื้อเรื่องของหนังเหมือนจะบอกกลายๆถึงโลกที่เราอาศัยอยู่ซึ่งเราคิดว่ามันปลอดภัย แต่จริงๆแล้วอาจมีผู้ก่อการร้ายที่จ้องจะทำลายมันได้ทุกเมื่อ แม้จะเป็นในยุคอนาคตที่สหพันธ์โลกรวมเป็นหนึ่งแบบไม่มีแบ่งแยกในจักรวาลของสตาร์ เทรคก็ตาม คราวนี้ได้เปลี่ยนมุมจากหายนะที่มาจากต่างดาว พวกเอเลี่ยนประหลาดต่างๆที่มาพร้อมอาวุธทำลายล้าง กลายเป็นฝีมือของมนุษย์ด้วยกันเองแทน (ถ้าเกิดผู้สร้างไม่หักมุมนะว่าจอห์น แฮร์ริสันเป็นเผ่าพันธุ์จากดาวอื่น...หรืออาจะเป็นหุ่นดรอยด์...)

Star Trek Into Darkness (สตาร์ เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด) เข้าฉาย 16 พฤษภาคมนี้

Credit: movieclipsTRAILERS@Youtube, Cinemablend; Katey Rich

By: EraOfGirls


เผยเนื้อเรื่องย่อ Transformers 4



สำนักงานของรัฐมิชิแกน-ที่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ Transformers ภาคแรกและ Dark Of The Moon ได้แถลงการณ์อนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่อง Transformers 4 เข้ามาถ่ายทำในเมืองดีทรอยต์ โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดกล้องกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ราวเดือนมีนาคม-พฤษภาคม)

โดยในแถลงการณ์ของรัฐมิชิแกนยังรวมไปถึงพล็อตเรื่องหลักของ Transformers 4 ไว้ด้วย: 

"เมื่อเหล่ามนุษยชาติฟื้นตัวกลับมาหลังจากเหตุการณ์ในบทสรุปฉากจบของ Transformers: Dark Of The Moon  กลุ่มออโตบอทส์และดีเซปติคอนส์ก็ได้หายไปจากดาวเคราะห์โลก แต่แล้วกลุ่มของนักธุรกิจและนักวิทยาศาสตร์หัวใสได้พยายามศึกษากการรุกรานโลกของเหล่าทรานส์ฟอร์เมอร์ส และได้สร้างเทคโนโลยีเกินขอบเขตที่จะควบคุมได้ - และในขณะเดียวกัน ทรานส์ฟอร์เมอร์สตัวอันตรายผู้ทรงพลังจากยุคอดีตกาลได้เล็งโลกเราไว้เป็นเป้าหมาย การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่และสงครามระหว่างฝ่ายธรรมะกับอธรรม เสรีภาพและการถูกกดขี่จึงเริ่มต้น"

ซึ่งก็สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้กำกับไมเคิล เบย์  เคยกล่าวไว้ว่า:

"Transformers 4 จะไม่ใช่การรีบู้ทครับ หนังจะดำเนินเรื่องต่อจากสงครามในชิคาโก้อีกสี่ปีต่อมาพอดี โดยเนื้อเรื่องจะมีการเชื่อมต่อได้อย่างลื่นไหล และเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องยกเครื่องนักแสดงใหม่หมดทั้งชุด Transformers ภาคนี้จะให้อารมณ์ต่างไปจากสามภาคที่แล้วอย่างมาก เป็นการปูทางให้กับไตรภาคชุดใหม่"



โดย Transformers 4 จะใช้ทุนราว 81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,300 ล้านบาท) เฉพาะแค่ที่ถ่ายทำในมิชิแกนอย่างเดียว ทำให้รู้แล้วว่าภาคนี้ก็จะกลับมายิ่งใหญ่อลังการตามแนวของทรานส์ฟอร์เมอร์ส และดาราที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะมารับบทนำอย่าง Jack Reynor ที่ได้รับการวางตัวให้เป็นเด็กหนุ่มเหมือนกับที่ Shia LaBeouf แสดงไว้ และ Mark Wahlberg ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมารับบทใด


จำได้ว่าเฮีย Michael Bay บอกจะไม่กำกับ Transformers ต่อตั้งแต่ภาคสอง แล้วก็มีภาคสาม แล้วก็บอกว่าจะอำลาเสียที คราวนี้เป็นไง จะทำต่ออีกสามภาค เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ถ้าจะเป็น Transformers ก็ต้องให้ Michael Bay กำกับนี่แหละดีแล้ว จะได้เห็นฉากบู๊ถล่มทลายกันให้วอดวาย ขึ้นชื่อว่าชอบใช้เอฟเฟคระเบิดเหลือเกิน แต่ถ้าดูจากเบื้องหลัง Transformers ไม่ว่าจะภาคใดก็จะรู้ว่ามันอลังการงานสร้างอย่างแรง และใช้ทุนมหาศาลจนจินตนาการไม่ออก

Transformers 4 กำหนดฉายในเดือนมิถุนายน 2014

ที่มา: Cinemablend; Katey Rich, Empire; James White, Michigan Film Office

By: EraOfGirls  

Wednesday, March 20, 2013

ตัวอย่างใหม่ Turbo





แอนิเมชั่นต้องมีเรื่องมีราวที่น่าสนใจ และปีนี้ทางสตูดิโอ Dreamworks ก็ได้ส่งเรื่องที่ว่าด้วยเจ้าหอยทากผู้หลงใหลในความเร็วของโลกรถแข่ง!

และในตัวอย่างใหม่นี้ก็เผยให้เราได้เห็นเีื่รื่องราวต่างๆมากขึ้น รวมไปถึงพลังพิเศษที่เจ้าหอยเทอร์โบไปบังเอิญได้มาแบบเท่ๆ

นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของตัวละครที่พยายามเอาชนะในสิ่งที่ตนเองเป็นอย่างน่าสนใจ กับมุขตลกแอบร้ายและความน่ารักของบรรดาหอยทากมากสีสัน (แต่ในโลกจริงนี่มัน...)

แอนิเมชั่นที่ร่วมพากย์เสียงโดยนักแสดงชื่อดังอย่าง Ryan Reynolds, Samuel L. Jackson, Michelle Rodriguez, Snoop Dogg ผลงานของ David Soren ผู้ออกแบบสตอรี่บอร์ดให้กับแอนิเมชั่นดังๆของ Dreamworks มาแล้วอย่างเช่น Shrek, Chicken Run ที่มาขึ้นแท่นเป็นผู้กำกับและเขียนบทให้กับ Turbo ร่วมกับผู้เขียนบทเรื่อง Jack The Giant Slayer และทีมผู้สร้าง Kung Fu Panda

Turbo กำหนดฉายในบ้านเรา 18 กรกฎาคม 2556

Credit: MovieclipsCOMINGSOON@Youtube, Major Cineplex, IMDB, Wikipedia

By: EraOfGirls

จะไม่มีเจมส์ บอนด์ภาคใหม่ไปอีกสามปี



สำหรับในช่วงสามสิบปีแรกของแฟรนไชส์หนังอมตะอย่างเจมส์ บอนด์นั้นจะมีภาคใหม่ต่อเนื่องลงโรงภาพยนตร์ทุกๆสองหรือสามปี จนกระทั่งมีช่วงทิ้งห่างครั้งใหญ่ถึงหกปีในรุ่นของ Timothy Dalton ที่รับบทบอนด์ในภาค License to Kill;รหัสสังหาร เมื่อปี 1989 และเว้นช่วงมาถึงปี 1995 ที่ Pierce Brosnan มาแสดงในภาค Golden Eye;พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก  

และแม้ Daniel Craig จะไม่ได้จากแฟนๆไปไหนเพราะมีสัญญาเล่นบอนด์ต่ออีกสองภาค แต่เพราะยังไม่ได้ตัวผู้กำกับ ทำให้เราอาจต้องรอไปอีกสักระยะหนึ่ง

ทาง Reuters ได้กล่าวถึงการโทรประชุมกันระหว่างประธานของ MGM และซีอีโอ Gary Barber ร่วมกับบรรดาผู้ลงทุนและเผยว่าบทภาพยนตร์ของเจมส์ บอนด์ภาคที่ 24 กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และอย่างเร็วที่สุดภาพยนตร์ก็น่าจะพร้อมสมบูรณ์ในอีกสามปีข้างหน้าโน้น!?

"พวกเราตื่นเต้นกับแฟรนไชส์นี้มากครับ เราหวังว่าจะได้ประกาศตัวผู้กำกับในเร็วๆนี้ " ซีอีโอแห่ง MGM กล่าว

"ตอนนี้เรากำลังพัฒนาบทและทำงานร่วมกับหุ้นส่วน (ผู้เขียนบท Skyfall - John Logan)...และเราจะพัฒนาสคริปต์กับเลือกตัวผู้กำกับเร็วๆนี้ เราหวังว่าหนังจะออกฉายได้ในอีกสามปีครับ"

และเขายังได้กล่าวถึงผู้กำกับ Sam Mendes ว่า "ทำ Skyfall ได้อย่างยอดเยี่ยมมมาก พวกเรารู้สึกขอบคุณจริงๆสำหรับผลงานที่เขาทำออกมา"

อนึ่ง Skyfall;พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย  เป็นเจมส์ บอนด์ภาคที่กวาดรายได้ไปมากที่สุด และถือเป็นภาพยนตร์ที่มีรายได้มากที่สุดเป็นลำดับที่ 7 ของโลกด้วยจำนวนเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์ (ราว3หมื่นล้านบาทไทย) เพราะฉะนั้นทางสตูดิโอ MGM จึงคงไม่อยากเร่งรีบสร้างภาคต่อออกมาเร็วๆนี้เท่าไหร่นักนั่นเอง

นั่นก็แปลว่าเราจะได้ดูเจมส์ บอนด์ภาคที่ 24 ประมาณปี 2016 และถึงตอนนั้น Daniel Craig ก็อายุปาไป 48 แล้วจ้า

ที่มา: CinemaBlend; Nick Venable , The Empire

By: EraOfGirls

สองภาพนิ่งใหม่จาก Star Trek Into Darkness

แอพพลิเคชั่น Star Trek ที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS วันนี้(20 มีนาคม 2556) ได้ปล่อยสองภาพนิ่งใหม่ของตัวละครคู่หูหลักของเรื่องอย่างกัปตันเคิร์ก(คริส ไพน์)และสป็อค(แซคารี ควินโต) กับภาพของตัวร้ายคนใหม่ผู้เปี่ยมด้วยปริศนานามจอห์น แฮร์ริสันที่รับบทโดยเบเนดิคท์ คัมเบอร์แบ็ทช์ โดยคาดกันว่าพรุ่งนี้จะมีการปล่อยภาพที่มีความคมชัดสูงกว่าออกมา





ที่มา: CinemaBlend, Star Trek Application
By: EraOfGirls

ตัวอย่างหนัง The Colony


The Colony



The Colony: ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญหลังวันสิ้นโลก ที่มีความเป็นแอ็คชั่นและกลิ่นอายของไซไฟ ถ่ายทำกันที่ประเทศแคนาดา ว่าด้วยกลุ่มผู้รอดชีวิตหลังเหตุการณ์ยุคน้ำแข็งรอบใหม่ในอนาคต (นานเสียจน "ลืมความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ไปแล้ว") ที่ใช้ชีวิตรวมกันอยู่ใน'อาณานิคม' สถานที่หลบภัยซึ่งมีน้ำ อาหาร (ที่น้อยลงทุกที)

และแล้ววันหนึ่ง หิมะก็เริ่มตกอีกครั้งโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แถมจู่ๆกลุ่มผู้รอดชีวิตจากอาณานิคมที่ 5 ก็ส่งสัญญาณช่วยเหลือมายังอาณานิคมที่ 7 (อันเป็นกลุ่มของตัวละครหลัก) เลยมีทีมอาสาเดินทางออกไปเพื่อตรวจสอบ ก่อนจะพบกับบางสิ่งบางอย่าง(ซึ่งอาจจะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่มีความโหดคลั่งกว่า)ที่ล่าและฆ่าพวกเขา กฏเกณฑ์ของการเอาชีวิตรอดท่ามกลางความป่าเถื่อนและหนาวเหน็บจึงเริ่มต้น (ยังไม่ได้ดูเลยนะเออ)

พล็อตเรื่องที่คุ้นๆมาผสมผสานกัน จากตัวอย่างทำให้นึกถึงโทนของหนังอย่าง The Day After Tomorrow, The Book of Eli, The Things, Alien 3 และดูเหมือนจะหยิบประเด็นเรื่องหายนะที่อาจตามมาจากสภาวะโลกร้อนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

มีดาราที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง Lawrence Fishburne และ Bill Paxton ที่หายหน้าหายตาไปสักพักหนึ่งมารับบทตัวละครหลัก กลุ่มผู้เขียนบทอาจไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าไหร่นัก แต่ก็น่าลองดู(นะ)

น่าสนใจ แต่ไม่รู้ว่าตัวหนังจริงๆจะเป็นอย่างไร วันเข้าฉายตามอเมริกาคือ 12 เมษายน 2556 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนังหนาวๆที่ออกมาท้าซัมเมอร์บ้านเราโดยตรง

ฺBy: EraOfGirls

ตัวอย่างใหม่ Despicable Me 2


ตัวอย่างใหม่ Despicable Me 2



ได้เห็นอะไรมากขึ้นจากทีเซอร์ฉบับสั้นๆก่อนหน้านี้ ทั้งกรูที่เป็นคุณพ่อผู้แสนอบอุ่นและยังไม่ทิ้งมาดของจอมวายร้าย (แต่ท่าดีทีเหลวตามแบบฉบับ) และขาดไม่ได้กับความเกรียนแบบน่ากอดของเจ้า Minions

ศัตรูตัวใหม่ของกรูจะเป็นใคร มีแผนอะไร และคุณพ่อหน้าโหดใจดีคนนี้จะช่วยโลกไว้ยังไง

พบกับ Despicable Me 2 วันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ในโรงภาพยนตร์แห่งสยามประเทศ

Credit: joblomovienetwork@Youtube, Nangdee

By: EraOfGirls 

อาจได้ดูภาคแยกของ The Fast & Furious ของ 'The Rock'

อาจได้ดูภาคแยกของ The Fast & Furious ของ 'The Rock'




Dwayne Johnson หรือ 'The Rock' ที่มาสร้างสีสันด้วยการรับบทเจ้าหน้าที่สุดเก๋า Luke Hobbs ฟาดกับแก๊งขาซิ่งไปแล้วใน Fast Five และกลับมารับบทเดิมแต่คราวนี้ต้องร่วมมือกับแก๊งซิ่งของดอมอีกครั้งใน Fast & Furious 6 อันเป็นตัวละครสำคัญที่ขาดไม่ได้ ให้สัมภาษณ์กับ The Empire ถึงเรื่องผลงานใหม่ๆที่อาจมีในอนาคต และได้กล่าวถึงภาคแยก (Spin-Off) ของตัวละคร Hobbs ที่อาจมีขึ้นก่อนที่ Fast &  Furious 7 จะตามมา

เรื่องนี้มีความเป็นไปได้แม้จะยังไม่มีการยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็นับว่าเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างน่าสนใจ ช่วยยกระดับให้แฟรนไชส์ Fast & Furious เป็นมากกว่าหนังแข่งรถตามท้องถนนทั่วไป อีกทั้งยังย้ำชัดให้เห็นว่าตัวละครนี้มีบทบาทค่อนข้างมากแม้จะเพิ่งโผล่มาแค่สองภาค และถ้าหากว่าภาคแยกนี้เกิดขึ้นจริง เราจะได้เห็น The Rock ในแง่มุมไหน เผชิญหน้ากับวายร้ายอย่างใคร (หลังประมือกับเจ้าพอยาเสพติด, อดีตทหารปฏิบัติการพิเศษ...หรือจะเป็นชีวิตก่อนหน้าที่จะมาเจอกับดอม โทเรตโต้!? )

และที่สำคัญ หนังจะชื่อว่าอะไรดีละ่เนี่ย...

ที่มา: The Empire; Ali Plumb [The Rock Talks Fast & Furious Spin-Off ]
By: EraOfGirls

ว่าด้วย 'ทฤษฎี' แปลกๆในโลกภาพยนตร์

ว่าด้วย 'ทฤษฎี' แปลกๆในโลกภาพยนตร์

ขึ้นชื่อว่า'ทฤษฎี' ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไป!

ในโลกภาพยนตร์ที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการของผู้สร้าง และบางครั้งยังทำให้ผู้ชมแต่ละคนตีความหนังเรื่องเดียวกันแบบไม่เหมือนกัน

เร็วๆมานี้ได้อ่านบทความหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับทฤษฎีในภาพยนตร์หลายเรื่องซึ่งแตกต่างไปจากที่เราเคยคิด และเป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆที่ทำให้ถึงกับร้องเฮ้ยออกมา ขอคัดมาเป็นบางข้อ โดยมีเกณฑ์คือทฤษฎีในหนังที่เราเคยดูดังต่อไปนี้...

  [อาจมีการสปอยล์เนื้อหาของบางเรื่อง เตือนแล้วนะ] 



 #เจมส์ บอนด์ เป็นแค่ชื่อรหัสลับ





เพราะเราได้เห็นเจมส์ บอนด์ที่มีมากหน้าหลายตา ตั้งแต่ป๋าฌอน คอนเนอรี่รุ่นเก๋าต้นฉบับจนมาถึงขวัญใจสาวๆ(และหนุ่มๆ?)หลายคนอย่างเฮียแดเนียล เคร็ก ทำให้มีบางคนเชื่อว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะมีเหตุผล (ยึดตามเรื่องในหนัง ไม่ใช่โลกจริง) ว่าจริงๆแล้วอาจไม่มีเจมส์ บอนด์อยู่จริง แต่เป็นแค่สายลับหลายๆคนที่พร้อมเข้ามารับหน้าที่ภายใต้รหัสชื่อเจมส์ บอนด์หลังจากที่คนก่อนๆปฏิบัติหน้าที่อย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว
เราเลยได้เห็นเจมส์ บอนด์หลายสไตล์มากๆ แต่อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้มีหลายจุดให้แย้ง โดยเฉพาะในตอนล่าสุดอย่าง Skyfall: พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย ที่มีการเอ่ยถึงคนตระกูล 'บอนด์' ซึ่งอาจแสดงให้เห็นว่าบอนด์ก็คือบอนด์นั่นแหละ

#พ่อกับแม่ของแอนดี้กำลังหย่าร้างกัน [Toy Story]



ใครๆต่างก็รู้กันว่า Toy Story คือแอนิเมชั่นที่สนุกและโด่งดังว่าด้วยของเล่นที่มีชีวิตและเผชิญเรื่องราวต่างๆที่ให้แง่มุมข้อคิดรวมทั้งเรียงเสียงหัวเราะและทำน้ำตาซึมตั้งแต่เด็กตัวเล็กยันผู้ใหญ่ ซึ่งอาจทำให้เรามองข้ามว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้สอดแทรกเรื่องความไม่มั่นคงในสังคมเกี่ยวกับการแยกทางของครอบครัวอยู่กลายๆ มีหลายคนเชื่อว่าพ่อกับแม่ของแอนดี้กำลังทะเลาะกันถึงขั้นรุนแรงจนต้องหย่ากัน ทำให้เราไม่เคยเห็นคุณพ่อของแอนดี้ในเื่รื่องเลย แม่ของแอนดี้เลยพยายามทำให้แอนดี้มีความสุขด้วยการซื้อของเล่นให้ (เยอะๆ)และพาไปเที่ยวบ่อยๆ เพื่อเป็นการกันลูกไม่ให้ต้องมาเจอปัญหาครอบครัว!
บางทฤษฎีก็บอกว่าคุณพ่อของแอนดี้อาจจะเสียชีวิตหลังจากที่คุณแม่ตั้งท้องมอลลี่(น้องสาวแอนดี้)ก็เป็นได้

#อินเดียน่า โจนส์ กำลังค่อยๆไปสู่สุขติ




ทฤษฎีนี้บอกว่าครึ่งหลังของหนังเรื่อง Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull (อาณาจักรกระโหลกแก้ว ภาคที่สี่ในแฟรนไชส์อินเดียน่าโจนส์)  ของพ่อมดผู้กำกับแห่งวงการภาพยนตร์อย่างสตีเว่น สปีลเบิร์ก นั้นเกิดขึ้นในจินตนาการของอินดี้ล้วนๆหลังจากที่หนีไปมุดในตู้เย็นเพื่อหลบการทดลองระเบิดนิวเคลียร์และตายอยู่ในนั้น สรุปแล้วคือพี่แกไม่รอดหรอก (เราถึงว่าหลบในตู้เย็นแล้วมันกันระเบิดนิวเคลียร์ได้เลยเรอะ!?) และผลจากพิษกัมมันตภาพรังสีก็ทำให้พี่แกหลอนในขณะที่กำลังตายไปอย่างช้าๆ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ครึ่งหลังในหนังภาคนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจริง แต่เป็นจินตนาการของอินเดียน่าโจนส์เองทั้งหมด เอ้า ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่มีภาคห้า หรือถ้ามีก็แสดงว่าเฮียโจนส์ยังไม่ยอมตายและฝันซ้อนฝันต่อไป...

#Anton คือเทพมรณะ [Bleach เอ้ย... No Country For Old Men]




หนังเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง No Country For Old Men ของพี่น้องผู้กำกับ Coen นั้นก็มีทฤษฎีที่บอกว่านักฆ่าตัวร้ายในเรื่อง (รับบทโดยฆาเวียร์ บาร์เด็ม) คือเทพมรณะหรือยมฑูตที่พระเจ้าส่งลงมาเพื่อลงทัณฑ์ผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการยาเสพย์ติดทั้งหลาย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Anton ถึงเก่ง ฆ่าไม่ตาย (แต่ก็มีเลือดเนื้อและบาดเจ็บเป็น แต่สีหน้าจะดูเย็นชาอย่างสิ้นเชิง) และชอบเล่นพนันชีวิตของเหยื่อด้วยการโยนเหรียญกับปรัชญาแปลกๆ แต่ถ้า Anton เป็นเทพมรณะจริง...ก็มีบาปให้ต้องชดใช้มากโขอยู่นะนั่น แต่เรื่องการแสดงต้องยกขึ้นหิ้งเลย กลายเป็นหนึ่งในตัวร้ายอมตะที่จะจดจำไปตลอดกาล

#เรื่อง(เกือบ)ทั้งหมดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ มันก็แค่ความฝันของเด็กชายผู้โดดเดี่ยว




ถ้ายังจำกันได้ ฉากในภาพยนตร์ภาคแรกสุดตอนที่มีชื่อว่าศิลาอาถรรพณ์นั้น นับตั้งแต่ที่แฮร์รี่(แดเนี่ยล เร็ดคลิฟฟ์) ถูกลุงจอมโหดขังไว้ในห้อง เรื่องราวต่อจากนั้นไปยันตอนอวสานของแฟรนไชส์หนังพ่อมดระดับโลกเรื่องนี้มันเป็นแค่เพียงจินตนาการของเด็กชายขี้เหงาที่ฝันถึงชีวิตที่ดีกว่า ยิ่งใหญ่กว่า ในขณะที่ตนเองนัั่่งเดียวดายอยู่ในตู้เสื้อผ้า! เอ้า ฝันเป็นเื่องเป็นราวแบบนี้เอาไปเขียนนิยายจนรวยล้นฟ้าได้แบบเจ.เค. โรว์ลิ่งแน่ๆพอตเตอร์เอ๋ย ทฤษฎีนี้อาจทำลายจิตใจสาวกแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่มากก็น้อย เป็นเพียงความคิดเห็นของคนบางกลุ่มเท่านั้นครับ!


แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ทฤษฎีที่หนักแน่นเต็มร้อย และมีหลายๆอย่างให้แย้งไปในทางที่ต่างกัน แต่การได้ลองอ่านก็พบว่ามันเป็นการเปิดมุมมองใหม่ที่น่าสนใจให้แก่โลกภาพยนตร์ที่เรารัก และเรื่องราวต่างๆก็ยังคงโลดแล่นไปในจินตนาการของแต่ละคนอย่างไม่มีวันจบสิ้น...

ข้อมูลจาก: Movie Farm [20 Most Bizarre Mind-blowing Film Theories]

By: EraOfGirls